บทความ

สัปดาห์นี้คุณแม่จะเริ่มรู้สึกถึงการดิ้นของลูก เพราะกล้ามเนื้อและกระดูกของลูกแข็งแรงขึ้น ปอดและหลอดลมของลูกน้อยก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน และต่อจากนี้จะเริ่มผูกพันธ์กับลูกน้อยมากขึ้นเรื่อยๆ

สัปดาห์นี้คุณแม่บางท่านอาจรู้สึกว่าลูกดิ้นแล้ว แต่บางท่านอาจจะยังไม่รู้สึกได้เช่นกัน ลูกน้อยมีขนาดประมาณผลแตงกวา และอวัยวะเพศเกือบสมบูรณ์แล้ว คุณหมอจะสามารถบอกเพศของลูกน้อยได้ในการฝากครรภ์ครั้งต่อไป

สัปดาห์นี้ลูกได้เริ่มสร้างไขมันใต้ผิวเพื่อสร้างความอบอุ่น ลูกเริ่มน่ารักมากขึ้นและมีหน้าตาคล้ายเด็กทารกมากขึ้น สัปดาห์นี้ลูกได้ฝึกการดูดการกลืนมากขึ้น เพื่อให้พร้อมกับการดูดนมแม่ หรือดูดขวดนมหลังจากที่คลอดออกมา

เข้าสู่เดือนที่ 4 อย่างเป็นทางการแล้วนะคะ สัปดาห์นี้ลูกเริ่มมีความ sensitive ต่อแสงและเริ่มชอบดูดนิ้ว ตอนนี้หัวใจของลูกแข็งแรงมาก และเริ่มทำงานบีบเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายแล้วค่ะ

ตอนนี้หน้าท้องของคุณแม่ขยายมากขึ้นจนอาจเห็นได้ชัด แม้ว่าลูกจะตัวเล็กเท่าผลลูกแพร์ก็ตาม ตอนนี้หน้าตาเริ่มเห็นเป็นหนูน้อยมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว ลูกน้อยอาจมีการฝึกขยับตัวอยู่บ่อยครั้ง มีการถีบหรือเตะได้บ่อยๆ แต่เนื่องจากเค้ายังตัวเล็กมากๆ คุณแม่อาจจะยังไม่รู้สึกผ่านทางหน้าท้อง

ไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์ อาการแพ้ท้องของคุณแม่จะดีขึ้น มดลูกขยายพ้นอุ้งเชิงกราน ลูกน้อยเริ่มแสดงสีหน้าได้บ้าง อวัยวะเพศของลูกจะสร้างชัดเจนขึ้น แต่อาจจะยังเห็นได้ไม่ชัด และขนของลูกเริ่มขึ้นตามร่างกาย

ตอนนี้คุณแม่เข้าสู่ปลายไตรมาสแรกแล้ว สัปดาห์นี้ลูกมีขนาดเท่าผลเลม่อน เส้นเสียงของลูกได้เริ่มสร้าง ขนาดหัวของลูกเริ่มดูเล็กลงเหลือ 50% ของขนาดตัว เปลือกตาของลูกยังปิดตาอยู่แน่น คุณแม่มีอาการตกขาว ท้องผูก กรดไหลย้อน และรอยดำหรือฝ้ากระบนใบหน้าชัดเจนขึ้น

ในสัปดาห์นี้อวัยวะสำคัญต่างๆ ของลูก ได้เริ่มฟอร์มเกือบครบแล้ว หลังจากสัปดาห์นี้โอกาสแท้งจะลดลงมาก คุณแม่คุณพ่อเริ่มเตรียมประกาศข่าวดีได้ ไขกระดูกของลูกสร้างเม็ดเลือดขาวที่จะช่วยต่อสู้กับเชื้อโรคภายนอกตอนคลอดมาแล้ว ต่อมใต้สมองของลูกเริ่มหลั่งฮอร์โมนของการสืบพันธุ์

สัปดาห์นี้คุณแม่เริ่มดีขึ้นจากอาการแพ้ท้องแล้วค่ะ แต่จะเริ่มมีอาการอยากอาหารและอาการแน่นท้อง ตอนนี้นิ้วมือและนิ้วเท้าของลูกเริ่มเห็นได้แล้วว่ามีกี่นิ้ว ระบบการได้ยินเสียงของลูกเริ่มเข้าที่ สมองจะพัฒนาเร็วมากและขนาดใหญ่เกือบครึ่งหนึ่งของขนาดตัว

สัปดาห์นี้แม่ๆ อาจจะยังอ่อนเพลียและมีอาการแพ้ท้องได้ แต่ลูกน้อยกลับแข็งแรงขึ้นและมีพัฒนาการที่ดีมากขึ้นกว่าเดิม ระบบร่างกายและอวัยวะของลูกเริ่มมีการพัฒนาให้เห็นชัดมากขึ้น

สัปดาห์นี้คุณแม่อาจมีอาการอ่อนเพลียมากขึ้นกว่าเดิม รกจะทำหน้าที่สำคัญในการลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารต่างๆ จากแม่ไปสู่ลูกน้อย กล้ามเนื้อและหัวใจของลูกแข็งแรงมากขึ้น อาจเริ่มได้ยินจากการฟังทางหน้าท้องได้ และจะเห็นได้ชัดตอนทำอัลตราซาวนด์

แม้ว่าตอนนี้ท้องคุณแม่อาจจะยังไม่โต แต่ลูกน้อยก็ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง สัปดาห์นี้อวัยวะสำคัญมีการพัฒนาเกือบหมด โคลีนและโฟเลตจึงมีความสำคัญมาก 75% ของคุณแม่จะมีอาการแพ้ท้องชัดเจนมากขึ้น ในภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Morning Sickness แต่อาการนี้อาจเกิดได้ทั้งวัน

สัปดาห์นี้สมองของลูกจะสร้าง 100 เซลล์ทุกๆ 1 นาที และเริ่มมีการแบ่งร่องแยกตัวออก คุณแม่จะมีอาการคัดตึงหน้าอก คลื่นไส้อาเจียน ปัสสาวะบ่อย และอาจมีอาการกรดไหลย้อน

สัปดาห์นี้ลูกจะเริ่มฟอร์มใบหน้า หัวใจเริ่มทำงานบ้างแล้ว และแม้ว่าท้องของคุณแม่อาจไม่ได้ดูโตขึ้น รูปร่างอาจจะยังไม่ได้เปลี่ยน แต่ก็อาจเริ่มมีอาการที่สามารถสังเกตได้ เช่น ปัสสาวะบ่อย อ่อนเพลีย และคลื่นไส้อาเจียน

คุณแม่สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้เลยในสัปดาห์นี้ คุณแม่บางท่านอาจมีอาการอ่อนเพลียหรือคลื่นไส้อาเจียนได้ รูปร่างของลูกจะเริ่มเห็นชัดขึ้น ระบบที่สำคัญของร่างกายลูกเริ่มพัฒนา แต่อาจยังมองไม่ออกว่าท้องโตขึ้น

สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่อาจจะตรวจเจอว่าตั้งครรภ์ค่ะ ลูกน้อยจะเริ่มแบ่งชั้นของร่างกาย มีการสร้างรกและน้ำคล่ำ และคุณแม่จะเริ่มมีอาการที่บ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ คุณแม่บางท่านอาจมีอาการคล้ายอาการก่อนมีประจำเดือน อย่างไรก็ตาม โอกาสแท้งในไตรมาสแรกยังมีเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่าไตรมาสอื่นๆ

หากไข่ได้รับการปฏิสนธิ ก็จะเริ่มแบ่งตัวกลายเป็นตัวอ่อน หลังจากนั้นจะเดินทางมาฝังตัวที่ผนังมดลูก หลังการปฏิสนธิประมาณ 5-7 วัน ซึ่งก็จะเป็นช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของการตั้งครรภ์ ในช่วงที่ตัวอ่อนฝังตัว คุณแม่บางคนอาจมีอาการปวดเกร็งท้องได้ หรือบางท่านอาจมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ และคุณแม่อาจมีความรู้สึกถึงการรับกลิ่นชัดเจนมากขึ้น

RSV เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ พบบ่อยในเด็กเล็ก ในระยะแรกอาการคล้ายไข้หวัดทั่วไป แต่สามารถรุนแรงขึ้นได้ คุณแม่สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 24-36 สัปดาห์

สัปดาห์ที่ 1 และ 2 ของการตั้งครรภ์ จะนับตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ตั้งครรภ์ด้วยซ้ำ เนื่องมาจากเราไม่สามารถระบุวันปฏิสนธิจริงๆ ได้ ทำให้ต้องนับสิ่งที่เชื่อถือได้มากที่สุด คือ วันแรกที่ประจำเดือนมาครั้งสุดท้าย หรือ LMP (Last Menstrual Period) ในสัปดาห์ที่ 1 และ 2 ของการตั้งครรภ์ เป็นช่วงที่ร่างกายเตรียมพร้อม ไข่ตก ได้รับการปฏิสนธิ และฝังตัวในสัปดาห์ที่ 3